
เปรต ตำนานที่อยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน
เรื่องเล่าเปรตวัดสุทัศน์ ผีเปรตเป็นผีที่ปรากฏในความเชื่อของศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู ความเชื่อวิญญาณเปรต ของบุคคลที่กระทำบาปกรรมมากมายในชีวิต เปรตจึงต้องตกไปสู่เปรตภูมิ ซึ่งเป็นภูมิแห่งทุกข์ทรมาน ลักษณ์รูปร่างเปรต มีอัปลักษณ์ สูงเท่าต้นตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ ผิวดำ ท้องโต มือเท่าใบตาล แต่มีปากเท่ารูเข็ม เปรตจะหิวโหยตลอดเวลา แต่ไม่สามารถกินอะไรได้ เปรตจึงมักปรากฏตัวเพื่อขอส่วนบุญจากญาติพี่น้องและผู้คนทั่วไป ตำนานผีไทย
การจะหลุดพ้นจากการเป็นเปรตนั้น เปรตต้องสั่งสมบุญบารมีจนสามารถหลุดพ้นจากบาปกรรมของตนได้ การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เปรตจึงเป็นการช่วยเหลือเปรตให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานได้
ความเชื่อเรื่องเปรต มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างมาก เห็นได้จากประเพณีและพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ การไหว้ผี การเลี้ยงผี เป็นต้น ความเชื่อเรื่องเปรตยังสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมและความเชื่อของสังคมไทย เช่น ความเชื่อเรื่องกรรม ความเชื่อเรื่องความตาย เป็นต้น
ลักษณะของเปรตตามความเชื่อไทย มีดังนี้
-มีรูปร่างสูงเท่าต้นตาล
-ผมยาว คอยาว
-ผอมโซ ผิวดำ
-ท้องโต
-มือเท่าใบตาล
-มีปากเท่ารูเข็ม
-หิวโหยตลอดเวลา
เปรตมักปรากฏตัวตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ตามป่าช้า ริมทาง บริเวณแม่น้ำ เป็นต้น เปรตมักปรากฏตัวเพื่อขอส่วนบุญจากญาติพี่น้องและผู้คนทั่วไป เปรตบางประเภทอาจปรากฏตัวเพื่อทำร้ายผู้คนอีกด้วย
เรื่องเล่าเปรตวัดสุทัศน์ สุดหลอน ตำนานแร้งวัดสระเกศ

รูปภาพจาก : https://www.youtube.com/
เปรตวัดสุทัศน์ เป็นตำนานที่เล่าขานกันมาอย่างยาวนานในสังคมไทย เชื่อกันว่าเป็นเปรตที่ปรากฏตัวให้เห็นตามลานวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร เปรตวัดสุทัศน์มีลักษณะรูปร่างอัปลักษณ์ สูงเท่าต้นตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ ผิวดำ ท้องโต มือเท่าใบตาล แต่มีปากเท่ารูเข็ม เปรตวัดสุทัศน์จะหิวโหยตลอดเวลา แต่ไม่สามารถกินอะไรได้ เปรตวัดสุทัศน์จึงมักปรากฏตัวเพื่อขอส่วนบุญจากญาติพี่น้องและผู้คนทั่วไป
ตำนานเปรตวัดสุทัศน์เล่ากันว่า มีชายคนหนึ่งชื่อตะโพน ตะโพนเป็นชายที่มีนิสัยเสียมากมาย ชอบโกหก หลอกลวง ขโมย และทำร้ายผู้อื่น ตะโพนมักใช้เล่ห์เหลี่ยมและอุบายเพื่อหลอกเอาเงินทองและทรัพย์สินจากผู้อื่น ตะโพนยังชอบขโมยของผู้อื่นมาใช้โดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว ตะโพนยังชอบทำร้ายผู้อื่น ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ตะโพนไม่เคยรู้จักคำว่าการให้ ไม่เคยรู้จักคำว่าเมตตา ไม่เคยรู้จักคำว่าช่วยเหลือผู้อื่น
วันหนึ่ง ตะโพนเสียชีวิตลง ตะโพนตกไปสู่เปรตภูมิ ซึ่งเป็นภูมิแห่งทุกข์ทรมาน ตะโพนกลายเป็นเปรตที่มีปากเท่ารูเข็ม แต่มีท้องโตเท่าท้องช้าง เปรตตะโพนจึงต้องหิวโหยตลอดเวลา เปรตตะโพนพยายามหาอาหารกิน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เปรตตะโพนจึงต้องร้องไห้คร่ำครวญด้วยความหิวโหย
วันหนึ่ง เปรตตะโพนกำลังเดินอยู่ริมถนน เปรตตะโพนเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังนั่งร้องไห้ เปรตตะโพนจึงเข้าไปถามเด็กหญิงว่า ทำไมถึงร้องไห้ เด็กหญิงเล่าให้เปรตตะโพนฟังว่า เด็กหญิงนั้นหิวข้าว แต่ไม่มีเงินซื้ออาหารกิน เปรตตะโพนสงสารเด็กหญิงจึงแบ่งส่วนบุญที่ญาติพี่น้องอุทิศให้ไปให้เด็กหญิง เด็กหญิงได้รับส่วนบุญจากเปรตตะโพนจึงรู้สึกอิ่มท้อง เด็กหญิงจึงหยุดร้องไห้
เปรตตะโพนรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยก็ช่วยเหลือเด็กหญิงได้บ้าง เปรตตะโพนจึงตั้งใจว่าจะทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับตัวเองและผู้อื่นต่อไป เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากการเป็นเปรต และจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป
หลังจากนั้น เปรตตะโพนก็เริ่มทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับตัวเองและผู้อื่น เปรตตะโพนทำบุญอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการทำบุญตักบาตร การทำบุญทอดกฐิน การทำบุญทอดผ้าป่า การทำบุญสร้างวัดวาอาราม และการทำบุญช่วยเหลือผู้ยากไร้ เปรตตะโพนยังตั้งใจทำดี ละเว้นความชั่ว และช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ
เมื่อเวลาผ่านไป เปรตตะโพนก็เริ่มสะสมบุญบารมีมากขึ้น ในที่สุด เปรตตะโพนก็ได้หลุดพ้นจากการเป็นเปรต และได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์อีกครั้ง เปรตตะโพนในชาติใหม่นั้นเกิดมาเป็นคนดี มีจิตใจเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เปรตตะโพนในชาติใหม่นั้นจึงมีชีวิตที่มีความสุข

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://variety.teenee.com/
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเชื่ออีกประการหนึ่งเกี่ยวกับเปรตวัดสุทัศน์ ว่าเปรตวัดสุทัศน์นั้นไม่ได้เป็นเปรตที่แท้จริง แต่เป็นเพียงการอุปมาอุปไมยถึงบุคคลที่ได้ทำบาปกรรมมากมายในชีวิต และไม่สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานได้ เปรตวัดสุทัศน์จึงเป็นสัญลักษณ์ของความหิวโหย ความกระหาย และความทุกข์ทรมาน
ตำนานเปรตวัดสุทัศน์จึงสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของคนไทยเกี่ยวกับกรรมและการลงโทษ การทำดีย่อมได้ผลดี การทำชั่วย่อมได้ผลชั่ว
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การทำบุญเป็นหนทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน การทำดี ละเว้นความชั่ว และช่วยเหลือผู้อื่น ล้วนเป็นการสร้างบุญบารมีให้กับตนเอง
อ่านเรื่องผีสุดหลอนเพิ่มเติมได้ที่ : ผีนางตะเคียน